บทความ

วิธีป้องกันไม่ให้ Line ถูกแฮกจากมิจฉาชีพ

รูปภาพ
  ปัจจุบันนี้ Line ถือเป็น Application ที่คนไทยใช้งานกันเป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกัน Line ก็มีการ Update Application อย่างต่อเนื่อง แน่นนอนว่าทำให้ได้ความสามารถใหม่ ๆ ของไลน์ แต่สิ่งที่คุณต้องให้ความสำคัญก็คือ เมื่อมีการ Update ย่อมต้องเข้าไปเรียนรู้ และทำความเข้าใจ ว่าความสามารถใหม่ ๆ นั้นมีอะไรบ้าง ควรปิด หรือควรเปิดอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น เมื่อไม่นานมานี้ไลน์ได้ออก Update ให้สามารถใช้ Line บนอุปกรณ์ที่หลากหลายได้ เช่น บนมือถือ บนแท็ลเล็ต บนคอมพิวเตอร์เป็นต้น เรียกได้ว่าใช้ไปพร้อม ๆ กันเลยทีเดียว แต่สิ่งที่ตามมาก็คือเมื่อสามารถเข้าใช้งานได้หลายอุปกรณ์แบบนี้ หากมิจฉาชีพแฝงตัวอยู่ในกลุ่ม Line ที่เราอยู่ และมีการส่ง Link มาให้เรา และเราเผลอดันไปกด Link นั้นเข้าอาจจะโดนมิจฉาชีพเข้ามาใน Line ของเราโดยไม่รู้ตัว ที่ได้กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงเรื่องเดียวที่จะทำให้ Line ของเราเสี่ยงที่จะถูกแฮก แต่การแฮกไลน์นั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เราควรรู้เท่าทัน และป้องกัน ซึ่งคุณสามารถศึกษารายละเอียดได้จากคลิปวีดีโอนี้  https://youtu.be/NBJ0-BEPK60

ถอดข้อความจากรูปภาพด้วย Grok 3 AI

รูปภาพ
  ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การแปลงข้อมูลจากรูปภาพให้กลายเป็นข้อความที่สามารถแก้ไข ค้นหา หรือแปลความได้นั้น กลายเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย โดยเฉพาะกับ Grok 3 AI หนึ่งในเครื่องมืออัจฉริยะจาก XAI (บริษัทในเครือของ Elon Musk) ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากในปี 2025 นี้ Grok 3 คืออะไร? Grok 3 คือโมเดล AI เวอร์ชันล่าสุดจากตระกูล Grok ซึ่งเป็นระบบ AI แบบ Multi-modal ที่สามารถประมวลผลทั้งข้อความ รูปภาพ และข้อมูลประเภทอื่น ๆ ได้อย่างชาญฉลาด จุดเด่นของ Grok 3 คือความสามารถในการ “เข้าใจ” บริบทจากภาพและข้อความร่วมกัน ไม่ใช่แค่แยกแยะวัตถุหรืออ่านข้อความเท่านั้น แต่ยังสามารถตีความความหมายในเชิงลึกได้อีกด้วย การถอดข้อความจากภาพด้วย Grok 3 หนึ่งในฟีเจอร์ที่ได้รับความนิยมมากของ Grok 3 คือ การถอดข้อความ (Text Extraction) จากรูปภาพ ไม่ว่าจะเป็น: เอกสารสแกน รูปถ่ายหน้าจอ (screenshot) บิลหรือใบเสร็จ ป้ายหรือแผ่นป้ายประกาศ โน้ตที่เขียนด้วยลายมือ (ในบางกรณี) Grok 3 ใช้เทคนิค Optical Character Recognition (OCR) ขั้นสูงที่มีความแม่นยำสูง รวมถึงความสามารถในการจ...

Piclumen AI สร้างภาพ ใช้ฟรี และดีมาก แถมใช้เชิงพาณิชย์ได้อีกด้วย

รูปภาพ
  ในยุคที่ AI กำลังเข้ามามีบทบาทในการสร้างสรรค์งานศิลปะ Piclumen AI คือหนึ่งในเครื่องมือที่โดดเด่น ด้วยความสามารถในการสร้างภาพจากข้อความ (Text-to-Image) ได้อย่างง่ายดาย ฟรี! และที่สำคัญสามารถใช้เชิงพาณิชย์ได้อีกด้วย ทำให้เหมาะสำหรับนักออกแบบ นักการตลาด และครีเอเตอร์ที่ต้องการภาพคุณภาพสูงโดยไม่ต้องเสียเงินแพง ๆ ทำไมต้องเลือกใช้ Piclumen AI? 1. ใช้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย Piclumen AI เปิดให้ผู้ใช้สามารถสร้างภาพโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ต้องสมัครสมาชิก ไม่ต้องเสียเงินซื้อเครดิต สามารถสร้างภาพได้อย่างอิสระ 2. คุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยม เทคโนโลยี AI ของ Piclumen สามารถสร้างภาพที่มีความละเอียดสูง รายละเอียดคมชัด และสีสันสวยงาม เหมาะกับการใช้งานทั้งในด้านกราฟิกดีไซน์ โฆษณา และสื่อโซเชียลมีเดีย 3. ใช้เชิงพาณิชย์ได้ หนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้ Piclumen AI น่าสนใจคือผู้ใช้สามารถนำภาพที่สร้างขึ้นไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ ไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบสินค้า โปสเตอร์ เว็บไซต์ หรือสื่อโฆษณาต่าง ๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องลิขสิทธิ์ 4. รองรับการสร้างภาพจากข้อความ (Text-to-Image) เพียงแค่พิมพ์คำอธิบายของภาพที่ต้องการ AI ก็จะสร้า...

DeepSeek AI คืออะไร? เริ่มต้นใช้งานง่ายใน 5 นาที

รูปภาพ
  ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลมีบทบาทสำคัญ การจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากอย่างมีประสิทธิภาพเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ DeepSeek AI จึงกลายมาเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ไม่ว่าคุณจะเป็นนักธุรกิจ นักวิจัย หรือผู้ที่ต้องการคำตอบจากข้อมูลขนาดใหญ่ DeepSeek AI คือคำตอบที่คุณตามหา DeepSeek AI คืออะไร? DeepSeek AI เป็นแพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและค้นหาข้อมูลที่ซับซ้อนด้วยเวลาอันสั้น จุดเด่นของ DeepSeek AI คือความสามารถในการทำงานร่วมกับข้อมูลจำนวนมากและการใช้งานที่ง่ายต่อผู้ใช้ทุกระดับ ไม่ว่าคุณจะไม่มีพื้นฐานด้านการเขียนโค้ดก็สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น ตัวแพลตฟอร์มมีฟีเจอร์หลากหลาย เช่น การประมวลผลข้อความ การวิเคราะห์เชิงสถิติ และการคาดการณ์ข้อมูล ช่วยให้การตัดสินใจทางธุรกิจแม่นยำยิ่งขึ้น คุณสมบัติเด่นของ DeepSeek AI วิเคราะห์ข้อมูลอย่างรวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยี AI อันล้ำสมัย DeepSeek AI สามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลได้ในไม่กี่วินาที ช่วยลดเวลาในการวิเคราะห์และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ใช้ง...

วิธี upload ไฟล์ขึ้น OneDrive บนมือถือ Update 2025

รูปภาพ
  การจัดเก็บไฟล์บนคลาวด์เป็นวิธีที่สะดวกและปลอดภัยในการจัดการไฟล์ในยุคดิจิทัล โดย OneDrive ของ Microsoft เป็นหนึ่งในบริการที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสามารถใช้งานได้ทั้งบนมือถือและคอมพิวเตอร์ วันนี้เราจะมาแนะนำขั้นตอนการอัปโหลดไฟล์ขึ้น OneDrive บนมือถือแบบง่ายๆ พร้อมเคล็ดลับการใช้งานที่คุณควรรู้ในปี 2025 ขั้นตอนการ Upload ไฟล์ขึ้น OneDrive บนมือถือ ดาวน์โหลดและติดตั้งแอป OneDrive หากคุณยังไม่มีแอป OneDrive บนมือถือ ให้ไปที่ Google Play Store (สำหรับ Android) หรือ App Store (สำหรับ iOS) จากนั้นค้นหาแอป "OneDrive" และติดตั้งลงในเครื่องของคุณ เข้าสู่ระบบบัญชี Microsoft เปิดแอป OneDrive แล้วเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Microsoft ของคุณ หากยังไม่มีบัญชี สามารถสมัครใช้งานได้ฟรีผ่านเว็บไซต์ Microsoft หรือในแอปโดยตรง เลือกไฟล์ที่ต้องการอัปโหลด เปิดแอป OneDrive แล้วแตะที่ปุ่ม ➕ (อัปโหลด/เพิ่มไฟล์) เลือกประเภทไฟล์ที่คุณต้องการ เช่น รูปภาพ , วิดีโอ , หรือ ไฟล์เอกสาร หากต้องการอัปโหลดไฟล์จากแอปอื่น เช่น แอปไฟล์หรือแกลเลอรี ให้แตะปุ่ม "เรียกดู" เพื่อค้นหาไฟล์ เลือกตำแหน่งจัดเก็บ...

วิธีใช้ Adobe Express บนมือถือให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง

รูปภาพ
Adobe Express เป็นแอปพลิเคชันที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณสร้างสรรค์งานกราฟิกคุณภาพสูงได้อย่างง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบ ในบทความนี้ เราจะสอนวิธีใช้ Adobe Express บนมือถือเพื่อสร้างผลงานที่ดูโดดเด่น และช่วยให้คุณประหยัดเวลา พร้อมทั้งปรับเนื้อหาให้สอดคล้องกับ SEO เพื่อให้บทความนี้ติดอันดับใน Google ได้ง่ายขึ้น Adobe Express คืออะไร? Adobe Express หรือชื่อเดิมว่า Adobe Spark เป็นแอปพลิเคชันที่พัฒนาโดย Adobe ที่มีฟีเจอร์หลากหลายสำหรับการออกแบบกราฟิก วิดีโอ และการสร้างเว็บเพจ แอปนี้เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการสร้างคอนเทนต์ที่ดูเป็นมืออาชีพ เช่น โพสต์โซเชียลมีเดีย แบนเนอร์ หรือการ์ดต่าง ๆ โดยไม่ต้องใช้ซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อนอย่าง Photoshop วิธีดาวน์โหลดและติดตั้ง Adobe Express บนมือถือ ดาวน์โหลดแอป : เข้าไปที่ Google Play Store สำหรับ Android หรือ App Store สำหรับ iOS ค้นหา "Adobe Express" และกดดาวน์โหลด ติดตั้งและเข้าสู่ระบบ : เมื่อติดตั้งเสร็จ ให้เปิดแอปและเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Adobe, Google หรือ Facebook วิธีใช้งาน Adobe Express เบื้องต้น 1. เลือกเทมเพลตที...

สนทนากับ AI จาก Google ด้วย Gemini Live ฟีเจอร์ใหม่ที่คุณต้องลอง

รูปภาพ
  ปัจจุบันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูล แปลภาษา หรือแม้กระทั่งช่วยจัดการตารางเวลา ล่าสุด Google ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Gemini Live ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ AI อัจฉริยะที่ได้รับการพัฒนาให้รองรับการสนทนาและการทำงานที่หลากหลายแบบเรียลไทม์ มาดูกันว่าฟีเจอร์นี้มีอะไรน่าสนใจ และทำไมคุณถึงไม่ควรพลาด! Gemini Live คืออะไร? Gemini Live เป็นฟีเจอร์ใหม่ในตระกูล Google Gemini ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับ AI ได้อย่างสะดวกและแม่นยำมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการถามคำถามทั่วไป ขอคำแนะนำ หรือช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ โดย Gemini Live รองรับทั้งข้อความ เสียง และภาพ ทำให้การสื่อสารกับ AI มีความหลากหลายและตอบโจทย์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ฟีเจอร์เด่นของ Gemini Live 1. สนทนาแบบเรียลไทม์ Gemini Live ถูกออกแบบให้สามารถตอบสนองคำถามได้อย่างรวดเร็ว พร้อมความสามารถในการให้คำตอบที่สอดคล้องและเข้าใจง่าย ช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่น 2. การวิเคราะห์ภาพและเสียง ไม่ใช่แค่ข้อความเท่านั้น Gemini Live ยังสามารถรับรู้และวิเคราะห์ข้อมูลจาก...

วิธีใช้ lightroom บนมือถือ

รูปภาพ
  Lightroom เป็นแอปพลิเคชันยอดนิยมสำหรับการแต่งภาพที่ได้รับความนิยมจากช่างภาพมืออาชีพและมือสมัครเล่นทั่วโลก หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและให้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพ Lightroom Plan Free บนมือถือคือคำตอบของคุณ ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำวิธีการใช้งาน Lightroom Plan Free อย่างง่ายและได้ผลดี 1. ดาวน์โหลดและติดตั้งแอป เริ่มต้นโดยดาวน์โหลดแอป Lightroom ได้ฟรีจาก Google Play Store หรือ App Store เมื่อดาวน์โหลดเสร็จสิ้น ให้เปิดแอปและลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Adobe หรือบัญชีอื่น ๆ เช่น Google หรือ Facebook 2. นำเข้าภาพถ่าย หลังจากเข้าสู่ระบบ คุณสามารถนำเข้าภาพถ่ายจากแกลเลอรีมือถือของคุณได้อย่างง่ายดาย กดปุ่ม "+" ที่มุมขวาล่าง และเลือกภาพที่ต้องการปรับแต่ง 3. การปรับแต่งพื้นฐาน ใน Lightroom Plan Free คุณสามารถปรับแต่งภาพได้หลากหลาย เช่น: ปรับแสง (Light): แก้ไขความสว่างและคอนทราสต์ของภาพ ปรับสี (Color): เปลี่ยนอุณหภูมิสี เพิ่มความสดใส หรือแก้ไขสมดุลสีขาว เพิ่มความคมชัด (Detail): ทำให้ภาพดูคมชัดและมีรายละเอียดมากขึ้น 4. ใช้ฟีเจอร์ Preset ฟีเจอร์ Preset ช่วยให้คุณแต่งภาพอย่างรวดเร...

วิธีใช้ Google แปลภาษาบนมือถือ

รูปภาพ
  Google แปลภาษา (Google Translate) เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถแปลข้อความหรือคำพูดได้หลากหลายภาษาเพียงแค่ใช้มือถือของคุณ ซึ่งเป็นแอปที่มีประโยชน์มากสำหรับการเดินทาง การเรียนรู้ภาษาใหม่ หรือแม้แต่การทำงานในต่างประเทศ ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำวิธีใช้ Google แปลภาษาบนมือถืออย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมคำแนะนำในการตั้งค่าที่สำคัญ 1. ดาวน์โหลดและติดตั้งแอป Google แปลภาษา ขั้นตอน: เปิด Google Play Store (สำหรับ Android) หรือ App Store (สำหรับ iOS) ค้นหาแอป Google แปลภาษา กดปุ่ม ติดตั้ง หรือ ดาวน์โหลด รอจนกระทั่งการติดตั้งเสร็จสิ้น เคล็ดลับ : ตรวจสอบว่าแอปของคุณเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อให้ได้รับฟีเจอร์ใหม่ๆ และการปรับปรุงประสิทธิภาพ 2. วิธีใช้งาน Google แปลภาษา 2.1 การแปลข้อความ เปิดแอป Google แปลภาษา เลือก ภาษาต้นทาง และ ภาษาปลายทาง พิมพ์ข้อความที่ต้องการแปลลงในช่องข้อความ ระบบจะแปลข้อความให้ทันที 2.2 การแปลด้วยเสียง แตะไอคอน ไมโครโฟน พูดข้อความที่ต้องการแปล แอปจะแสดงผลการแปลในรูปแบบข้อความและเสียง 2.3 การแปลด้วยกล้อง แตะไอคอน กล้อง เล็งกล้องไปยังข้อความที่ต้องการแปล (เช่น ป้าย หรือเมน...

วิธีใช้ Google Fit บนมือถือ

รูปภาพ
  Google Fit เป็นแอปพลิเคชันเพื่อสุขภาพที่ช่วยให้คุณสามารถติดตามการออกกำลังกายและสุขภาพโดยรวมได้อย่างง่ายดายผ่านมือถือ ด้วยการออกแบบที่ใช้งานง่ายและฟีเจอร์ครบครัน แอปนี้กลายเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวัน ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปเรียนรู้วิธีใช้งาน Google Fit บนมือถืออย่างละเอียด พร้อมเทคนิคที่ช่วยให้คุณได้ประโยชน์สูงสุด 1. ดาวน์โหลดและติดตั้ง Google Fit เริ่มต้นด้วยการดาวน์โหลดแอป Google Fit จาก Google Play Store (สำหรับ Android) หรือ App Store (สำหรับ iOS) ฟรี! เมื่อติดตั้งเสร็จ ให้เปิดแอปและลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Google ของคุณ 2. ตั้งค่าโปรไฟล์ส่วนตัว หลังจากเข้าสู่ระบบ Google Fit จะขอให้คุณกรอกข้อมูลพื้นฐาน เช่น อายุ น้ำหนัก ส่วนสูง และเป้าหมายสุขภาพ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้แอปคำนวณแคลอรีและการเผาผลาญได้แม่นยำยิ่งขึ้น 3. ใช้ฟีเจอร์ "Move Minutes" และ "Heart Points" Google Fit เน้นให้ผู้ใช้ออกกำลังกายอย่างสมดุลด้วยฟีเจอร์ Move Minutes และ Heart Points : Move Minutes : วัดระยะเวลาที่คุณเคลื่อนไหวในแต่ละวัน Heart Points : ให้คะแนนเมื่อคุ...