สแปม (Spam) คืออะไร

ก่อนที่เราจะไปทำความเข้าใจว่า สแปม (spam) คืออะไร เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าเมื่อมีการติดต่อสื่อสารของคนเป็นจำนวนมาก ด้วยช่องทางการสื่อสารผ่านระบบออนไลน์ ย่อมทำให้เป็นที่หมายปองของคนที่ต้องการจะส่งข่าวสารต่าง ๆ ให้กับกลุ่มคน เพื่อให้ได้มาซึ่งการขายสินค้า และบริการ หรือหวังผลในการให้กลุ่มคนเหล่านั้นเข้าเว็บไซต์ เพื่อวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง  วัตถุประสงค์ดังกล่าวนั้นมีทั้งในแง่ของการขายสินค้าทั่วไป หรือแม้กระทั่งหลอกลวงก็มีให้เป็นกันอยู่มากมาย 

การส่งข้อความเหล่านี้ปัจจุบันมักจะส่งเข้ามาได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น E-mail, SMS หรือระบบแชทใน Social Media ต่าง ๆ ข้อความโฆษณา จะเป็นข้อเท็จจริง หรือจะเป็นการหลอกลวงที่ถูกส่งมานี้จะถือว่าหรือเรียกว่าเป็นการสแปมทั้งสิ้น

เหตุผลหลัก ๆ ที่มักมีการสร้างสแปมนั้นก็คือค่าใช้จ่ายค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับการทำโฆษณาในช่องทางอื่นที่ต้องการส่งข้อความให้กับคนครั้งละมาก ๆ จึงทำให้มีการทำสแปมเกิดขึ้นมากมาย

ข้อความที่เป็นสแปมเหล่านี้ ก่อให้เกิดความรำคาญกับผู้รับข้อความ หรือหากกด Link เข้าไปอ่านข้อมูลแล้วหลงกลจากการถูกหลอกลวง ก็จะส่งผลเสียในระดับที่สูงขึ้น 

การสแปมนี้มีมาเนิ่นนาน ซึ่งในยุกต์แรกนั้นจะมีกับ E-mail เป็นส่วนใหญ่ แต่ในปัจจุบันนี้มักแอบแฝงมากับ SMS ด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญในการระมัดระวังการใช้ E-mail และ SMS มากยิ่งขึ้น

การป้องกันการสแปม

• เมื่ออ่าน E-mail แล้วรู้สึกว่าเราไม่เคยติดต่อสื่อสารกับบุคคล หรือไม่เคยใช้บริการกับผู้ให้บริการรายนี้ แต่มักได้รับ E-mail อยู่บ่อยครั้ง ก็ให้รายงานสแปม โดยกำหนดให้บุคคล หรือผู้ให้บริการรายนั้นเป็นสแปม อ่านขั้นตอนการรายงานจดหมายขยะบน Application Gmail คลิกที่นี่
• สำหรับ SMS ก็สามารถบล็อก หรือทำเครื่องหมายว่าเป็นสแปมได้เช่นเดียวกัน อ่านขั้นตอนการบล็อกสแปมจาก SMS คลิกที่นี่
• งดการส่งต่อ E-mail ที่มีลักษณะของการแนะนำให้ส่งต่อเป็นลูกโซ่ ช่วยลดการสแปมไปยังบุคคลอื่นได้
• งดการกรอกข้อมูลที่เป็น E-mail หรือ เบอร์โทรศัพท์กับเว็บไซต์ หรือบริการที่ขาดความน่าเชื่อถือ

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวที่ถ่ายทอดออกมาเพื่อทำให้คุณรู้จัก และเข้าใจความหมายของสแปม (Spam) ได้มากขึ้น และสามารถป้องกันตนเองจากการสแปมได้